6 ก.ค. - นางสดศรี สัตยธรรม กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ด้านกิจการพรรคการเมือง เปิดเผยว่า ที่ประชุม กกต.รับทราบและเห็นด้วยกับข้อเสนอของฝ่ายกฎหมายและฝ่ายบริหารการเลือกตั้ง ว่า เห็นควรให้ประกาศรับรองผลเลือกตั้งของ นายจตุพร พรหมพันธุ์ ว่าที่ ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทยไปก่อน หลังจากนั้น ค่อยเสนอเรื่องไปยังประธานสภาผู้แทนราษฎร ให้ส่งกรณีดังกล่าวให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยต่อไป เนื่องจากไม่มีบทบัญญัติใดให้อำนาจ กกต.หรือศาลฎีกาเพิกถอนการเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้ง จึงต้องรอให้ประธานสภาฯ เป็นผู้ดำเนินการ
ทั้งนี้คาดว่าจะประกาศผลรับรอง นายจตุพร พร้อมกับว่าที่ ส.ส.ทั้งหมดที่ กกต.เห็นว่า มีคุณสมบัติครบถ้วนและไม่มีเรื่องคัดค้านในวันที่ 12 กรกฎาคมนี้ อย่างไรก็ตามเมื่อส่งเรื่องไปยังประธานสภาฯ แล้ว ก็ไม่มีเรื่องเงื่อนเวลาว่า จะต้องส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญเมื่อใด
"ข้อเสนอของฝ่ายกฎหมายสรุปว่า แม้ นายจตุพร จะถูกคุมขังด้วยหมายศาลและไม่สามารถไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งได้ ถือว่า เข้าองค์ประกอบมาตรา 101(3) ที่ระบุถึงคุณสมบัติผู้มีสิทธิ์สมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ส.ว่า ต้องเป็นสมาชิกพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่งเพียงพรรคเดียว เป็นเวลาติดต่อกันไม่น้อยกว่า 90 วัน นับถึงวันเลือกตั้ง เว้นแต่กรณีที่มีการเลือกตั้งทั่วไป เพราะเหตุยุบสภา ต้องเป็นสมาชิกพรรคการเมืองใดพรรคหนึ่งแต่เพียงพรรคเดียวเป็นเวลาติดต่อกัน ไม่น้อยกว่า 30 วัน นับถึงวันเลือกตั้ง
ซึ่งกรณีของ นายจตุพร น่าจะเข้าข่ายขาดคุณสมบัติจากการเป็นสมาชิกพรรคการเมือง ตั้งแต่วันที่ 3 กรกฎาคม เนื่องจาก นายจตุพร ไม่ได้ใช้สิทธิ์เลือกตั้ง และผิดข้อบังคับของพรรคเพื่อไทย ที่ระบุว่าสมาชิกพรรคจะต้องไม่เป็นผู้ถูกคุมขัง และในวันเลือกตั้ง นายจตุพร ไม่ได้ไปใช้สิทธิ์ จึงถือว่า ขาดเป็นความเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทยตั้งแต่วันดังกล่าว" นางสดศรี กล่าว
ส่วนทางด้าน นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ว่าที่ ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ควรออกมาแสดงความชัดเจนเกี่ยวกับคุณสมบัติของ นายจตุพร พรหมพันธุ์ ว่าที่ ส.ส.บัญชีรายชื่อ อันดับ 8 พรรคเพื่อไทย เพราะมีความพยายามจากหลายฝ่ายยื่นเรื่องให้ กกต.ตีความคุณสมบัติของ นายจตุพร
เพราะตั้งแต่วันรับสมัครรับเลือกตั้ง ขณะนั้น นายจตุพร อยู่ในเรือนจำ ซึ่ง กกต.ได้มีการตรวจสอบและรับรองคุณสมบัติของ นายจตุพร ถูกต้องสมบูรณ์ เช่นเดียวกับผู้สมัคร ส.ส.คนอื่น ๆ ของพรรคเพื่อไทย ดังนั้นตามกฎหมายเลือกตั้ง เมื่อพรรคเพื่อไทยชนะการเลือกตั้ง และ นายจตุพร มีรายชื่อเป็นผู้สมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย ลำดับที่ 8 ก็เท่ากับว่า นายจตุพร เป็นว่าที่ ส.ส.โดยอัตโนมัติ
ขณะที่ด้าน นายบุญยอด สุขถิ่นไทย ว่าที่ ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ได้กล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า รู้สึกผิดหวังต่อการทำหน้าที่ของกกต.ชุดนี้ เพราะโดยสามัญสำนึกของคนทั่วไป คิดว่าการทำหน้าที่ของกกต.ควรจะเป็นไปด้วยความอิสระ ตรงไปตรงมา และการพิจารณาเรื่องคุณสมบัติผู้สมัครเป็นหน้าที่โดยตรงของกกต.เพราะมี กฎหมายรับรองอยู่แล้ว เมื่อ กกต. มองไม่เห็นปัญหา ตนก็ได้พยายามชี้ให้เห็นแต่กลายเป็นว่ากกต. กลับโยนเรื่องไปให้ศาลรัฐธรรมนูญทำงาน
อย่างไรก็ตาม กกต.ควรจะทบทวนตัวเองและสำรวจความเห็นของประชาชน เพื่อเป็นกระจกสะท้อนให้เห็นว่าประชาชนคิดอย่างไรกับกกต.ชุดนี้ ทั้งนี้ตนจะปรึกษากับทีมกฏหมายพรรคประชาธิปัตย์แล้วว่า หากกกต.ไม่ได้ทำหน้าที่ที่ควรจะดำเนินการฟ้องร้องฐานละเว้นหน้าที่อย่าง แน่นอน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น